ผู้เสียหายโผล่อีก ผู้จัดการบัวขาว แจงชัดกรณีโดนเบี้ยวค่าตัวยอดทะลุเกือบ 3 ล้าน

จากกรณีที่กำลัง เป็นประเด็นร้อนในโลกอินเตอร์เน็ตเมื่อ “ดำดอทคอม” บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดกำปั้นขวัญใจชาวไทย ออกมาทวงถามค่าตัว 2.2 ล้านบาท จากการเดินทางไปชกรายการ World Fight Tournament ที่ประเทศกัมพูชา

โดยในไฟต์ดังกล่าว นักชกคนไทยวัย 40 ปี ขึ้นชกเอาชนะคะแนน ดมิทรี วารัตส์ นักชกชาวเบลารุส ที่สนามกีฬาแห่งชาติ มรดก เตโช, กัมพูชา เมื่อวันพุธที่ 6 เดือนกรกฎาคม ปีที่ผ่านมา สร้างความประทับใจให้กับแฟนคลับ เจ้าถิ่นเป็นอย่างยิ่ง

บัวขาว

อย่างไรก็แล้วแต่หลังการชกจบลง ปรากฏว่า

ทางฝ่ายจัด กลับไม่จ่ายค่าตัวที่เหลือ และก็ได้หนีหายไป ทำให้ทาง บัวขาว บัญชาเมฆ ออกมาโพสต์ว่า ไม่ได้มีปัญหากับทางประเทศกัมพูชา เพียงแต่ต้องการวอนให้ผู้ใหญ่ในวงการมวย ของกัมพูชา เมตตาช่วยติดตามค่าตัว ที่ไปต่อยที่กัมพูชาให้ด้วย

มีข้อมูลล่าสุดจาก ธีรวัฒน์ ยิ้วยิ้ม ผู้จัดการของ บัวขาว บัญชาเฆม ว่า “หลังจากการชกจบลง เขาก็หายตัวไปเลย และถึงในขณะนี้มีคนที่ โดนเบี้ยวจ่าย จากรายการดังกล่าว ออกมามากขึ้นหลายราย ไล่ตั้งแต่ฝ่ายออร์แกไนซ์จัดงาน, พิธีกร, ช่างภาพ, ค่าโรงแรงที่พัก รวมถึงคนขับรถรับส่ง”

“ซึ่งถึงในเวลานี้ยอดความเสียหาย เพิ่มขึ้นเป็น 2.7 ล้านบาทเข้าไปแล้ว และก็ยังมีอีกหลายคน ที่ยังไม่กล้าออกมาเปิดเผย ก่อนอื่นอยากที่จะให้ แฟนมวยชาวไทย เข้าใจว่าทาง บัวขาว ไม่ได้มีปัญหา กับประเทศกัมพูชาแต่อย่างใด”

“เนื่องจากว่าผู้ที่เป็นหัวเรือใหญ่ สำหรับการจัดงานเป็นคนไทย ที่ไปอาศัยอยู่ในกัมพูชา เป็นเวลานานกว่า 20 ปี ซึ่งน่าจะ รู้จักกับผู้ใหญ่ ในแวดวงมวยของตรงโน้นหลายราย จึงอยากวอนผู้ใหญ่ ในแวดวงมวยบ้านเขา ช่วยตาม ให้ก็เท่านั้น” ผู้จัดการยอดมวยดัง เปิดใจ

รองปธ.มวยกัมพูชา

ตั้งค่าหัวแล้ว “รองปธ.มวยกัมพูชา” เดือดลั่นผู้ใดคว่ำ “บัวขาว” รับโบนัสไปเลย

กลายเป็นประเด็นเดือด อย่างต่อเนื่องกับการที่ ประเทศกัมพูชา เจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2023 ออกมาประกาศว่า จะไม่ขอใช้ชื่อ “มวยไทย” ในการแข่งครั้งนี้ โดยจะใช้ชื่อว่า “กุน แขมร์” ที่ถือเป็น กีฬาประจำชาติของพวกเขาแทน

ซึ่งเรื่องนี้นักข่าวได้สัมภาษณ์ “ดำดอตคอม” บัวขาว บัญชาเมฆ นักชกมหาชนขวัญใจคนไทย ที่เดินทางไปร่วมเปิดตัวภาพยนตร์ Marvel Studios’ Ant-Man and The Wasp: Quantumania ซึ่งจัดขึ้นที่มหานคร สกายวอล์ค คิง เพาเวอร์ มหานคร

โดย กำปั้นวัย 40 ปี ได้พูดว่า “เฮ้ย! พูดแล้วของขึ้น มีไฟต์ไหมเนี่ย (หัวเราะ) เขาก็มีสิทธิ์ของเขา เราพูดอะไรไม่ได้ มันเป็นสิทธิ์ของเขาในการ เป็นเจ้าภาพ ระดับเอเชียเราไม่ต้องกล่าวถึง เราไปเอ่ยถึงโอลิมปิก”

“มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา เราไม่พูดถึง อัปทูยูจะเอาไปไหนก็เอาไปเลย แต่ว่าของเราออริจินอล ไทยแลนด์ เบอร์ 1 อยู่แล้ว อย่าไปฟัง อย่าไปซีเรียส ของเรามันดีอยู่แล้ว”

ซึ่งหลังจากคลิปการสัมภาษณ์นี้ ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ยังประเทศเพื่อนบ้าน ก็สร้างความไม่ถูกใจ ให้กับแฟนมวยชาวเขมร เป็นอย่างยิ่ง ถึงขั้นที่ นายสเร จันทร รองประธานกิตติมศักดิ์สหพันธ์มวยกัมพูชา ออกมาประกาศหมายหัว บัวขาว บัญชาเมฆ ผ่านโลกออนไลน์

“ประกาศจาก สเร จันทร ในนามของรองประธานกิตติมศักดิ์สหพันธ์มวยกัมพูชา ผมมั่นใจว่ามีนักมวยกัมพูชา ที่แข็งแกร่ง และสามารถเอาชนะ บัวขาว ได้ ซึ่งถ้าเกิดใคร เสนอตัวและสามารถเอาชนะเขาได้ ผมจะมอบบ้านให้ 1 หลัง, รถหรู 1 คัน และก็ให้เงินสำหรับใช้จ่าย เป็นระยะเวลา 10 ปี”

“นี่เป็นกำลังใจ จากผมที่จะมอบให้ กับนักมวยเขมร ที่พร้อมสู้เพื่อแผ่นดินเกิดของเรา ผมรักกัมพูชา และก็ขอให้พี่น้องของเรา เชียร์นักมวยของเรา” ซึ่งงานนี้เรียกว่า เกิดกระแสดราม่าอย่างมาก ที่ประเทศกัมพูชาในตอนนี้

ประวัติ บัวขาว บัญชาเมฆ

ประวัติ บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทยขวัญใจชาวไทย ตำนานแชมป์ K-1

บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทยขวัญใจมหาชน ที่ผงาดคว้าแชมป์มาแล้วทั้ง K-1, THAI FIGHT และ คุนหลุนไฟต์

ร้อยตรี สมบัติ บัญชาเมฆ คือชื่อจริงของยอดมวยไทย บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยไทย เชื้อสายกูย เกิดวันที่ 8 เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2525

บัวขาว เริ่มต้นชีวิตนักมวยตั้งแต่อายุ 8 ปี ที่จังหวัดสุรินทร์ พออายุได้ 15 ปี ก็ได้เข้ามาขึ้นตรงต่อค่าย ป.ประมุข โดยใช่ชื่อในการชกว่า ดำทมิฬ เกียรติอนันต์ เขาได้เข้ามาชกมวยไทย ในกรุงเทพ แล้วก็ได้คว้าเข็มขัดแชมป์ มาครองหลายเส้น รวมถึงแชมป์เวทีสยามอ้อมน้อย รุ่นเฟเธอร์เวท, แชมป์ประเทศไทย รุ่นเฟเธอร์เวท แล้วก็แชมป์ที่ เวทีสยามอ้อมน้อย รุ่นไลท์เวท

ในปีพุทธศักราช 2545 บัวขาวได้ชนะเลิศมวยไทย มาราธอนโตโยต้า รุ่น 140 ปอนด์ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี ชนะโคบายาชิ นักมวยมีชื่อเสียงจากญี่ปุ่น

จนกระทั่งในปีพ.ศ. 2547 บัวขาว ได้ไปชกที่ประเทศญี่ปุ่น ในรายการ K-1 World MAX 2004 ที่จัดขึ้นที่กรุงโตเกียว โดยการชกในรายการ K1 เป็นการชกแบบทัวร์นาเมนต์ แพ้คัดออก

โดยในรอบแรกบัวขาว เจอกับ จอห์น เวย์น พาร์ (John Wayne Parr) นักมวยไทยชาวออสเตรเลีย ในรอบที่สองเจอกับ โคะฮิรุมาคิ ทากะยูกิ และก็ในรอบชิงชนะเลิศ เจอกับ มาซาโตะ แชมป์เก่าชาวญี่ปุ่น และบัวขาว ก็สามารถชนะมาได้แบบไม่ยากเย็น และก็เอาเข็มขัดแชมป์ K1 มาครองได้สำเร็จ

เกียรติประวัติ

1แชมป์ประเทศไทย รุ่นเฟเธอร์เวท (ที่สนามมวยลุมพินี) ปี 2544
2แชมป์ K-1 World MAX champion ปี 2004 และ 2006
3แชมป์ 2010 Shoot Boxing S-Cup World champion ปี 2553 คนไทยคนแรก และคนเดียวในประเทศไทย
4แชมป์ สภามวยไทยโลก ในพระบรมราชูปถัมภ์ WMC World champion ปี 2549, 2552, 2554, 2557
5แชมป์ สภามวยโลก WBC Muaythai Diamond World Championship ปี 2557
6แชมป์ ไหว้ครูมวยไทยสวยงาม สนามมวยลุมพินี ปี 2545
7ถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แชมป์มวยไทยไฟท์ ปี 2554, 2555
8ถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รางวัลนักกีฬาอาชีพดีเด่น ปี 2555
9ถ้วยพระราชทาน กษัตริย์อัลแบร์ตที่ 2 แห่งโมนาโค แชมป์ “มอนติคาโล ไฟต์ติง มาสเตอร์” ปี 2557